คาบที่เราเรียนในห้องเลคเชอร์ดูเชฟสาธิต เรียกว่า Demo และ คาบที่เราจะต้องเข้าปฎิบัติการในครัว เรียกว่า Practical คอร์สนึงจะมี 30 Demo และ 30 Pracical จะเรียนแต่ละคาบสลับกัน คือ Demo1 Practical 1 Demo 2 Practical 2 สลับแบบนี้จนถึง Prac 30 เรียนคาบละ 3 ชั่วโมง
Basic Cuisine มีกันทั้งหมด 45 คน Demo เราเรียนพร้อมกันหมด แต่ Prac แยกเป็น 3 กลุ่ม แยกย้ายตามตารางสอนที่ลงไว้กับโรงเรียน .... เวลาเราเรียนในห้อง Demo เชฟจะทำอาหาร แล้วบอกการทำทุกขั้นตอน ตลอดจนบอกวิธีใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราต้องใช้เวลาเราเข้าห้อง Prac ... แต่ละ Demo เชฟจะสาธิตการทำอาหาร 2-4 เมนูสลับกันไปมา ฉะนั้น ตอนจดเลคเชอร์ต้องตั้งสติให้ดี ถ้าจะให้ดีกว่านั้นควรดูรายละเอียดแต่ละเมนูมาก่อนล่วงหน้า จะได้ตามทันและไม่หลง เพราะเวลาเราเข้าห้อง Prac เลคเชอร์ที่เราจดนั่นแหละจะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตตอนอยู่ในครัว เพราะเพื่อนก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ เนื่องจากเชฟไม่ให้คุยกัน และเวลาที่ทำก็จำกัด ถึงเพื่อนอยากจะช่วยเราแค่ไหน บางทีเพื่อนก็ช่วยไม่ได้ เพราะเขาก็ต้องทำจานของเขาส่งให้เสร็จทันเวลา
เชฟจะทำให้เราดูหลายเมนูในแต่ละครั้ง แต่จะมี 1 เมนูที่ถูกกำหนดไว้ว่าเราต้องเข้าไปทำในห้อง Prac อย่างที่บอก ต้องจดดีๆ ถ้าจดสับสน พอเข้าไปในห้องแพรคก็จะไม่มีที่พึ่งพึง เวลาที่เข้าห้องแพรคทำแต่ละเมนู เราจะต้องทำเองทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมเนื้อสัตว์ หั่น แล่ เตรียมผัก ทำอาหาร และล้างภาชนะ เช็ดให้แห้ง เก็บเข้าที่ตามเดิม การทำอาหาร เราต้องฝึกทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เช่น หั่นผักระหว่างต้มน้ำ หรือดูอุณหภูมิเตาระหว่างกำลังผัดของในกระทะ Organize และ Prioritize ในขณะที่กำลังทำสิ่งตรงหน้า เราจะต้องรู้ว่าลำดับถัดไปที่เราจะต้องทำคืออะไร และทำส่วนใดอยู่ มิฉะนั้นเราจะส่งไม่ทัน นี่เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญทุกครั้งของการเข้าแพรค
อยากจะแนะนำว่า ช่วงที่เรียนควรงดการเที่ยวเตร่และสังสรรค์ยามวิกาล เพราะจะทำให้สติสมาธิไม่พร้อมสำหรับการเรียนทำอาหาร และควรฟิตแอนด์เฟิร์มร่างกายให้แข็งแรงและคล่องแคล่ว เพราะเราต้องทำหลายอย่างในเวลาจำกัด และต้องยกหม้อที่มีน้ำหนักมาก วันที่ต้องยกไก่ทั้งตัวพร้อมกระทะเหล็กเข้าเตาอบ ขอบอกว่าหนักมาก และมันถ่วงน้ำหนักไปด้านเดียว มากไปกว่านั้น เราต้องยกกระทะพร้อมไก่ทั้งตัวเข้าออกเตามากกว่า 8 รอบ ในวิถีขึ้นลง เพราะเตาอบอยู่ใต้เตาไฟ และกระทะร้อนมาก ห้ามพลาดปล่อยลงมาเด็ดขาด....ปวดแขนฝุดๆ .....
เรียนทำอาหารต้องพร้อมทั้งแรงกาย แรงใจ สติ สมาธิ อ้อ...และอีกอย่างที่สำคัญคือ จิตใจที่เข้มแข็ง การควบคุมอารมณ์ในการทำงาน เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไม..... โปรดติดตามตอนต่อไปฮาฟ ..